ฮ่องกงในความทรงจำ

ย้อนกลับไปประมาณ 20 กว่าปีก่อน ตั้งแต่สมัยที่แม่ยังทำธุรกิจการ์เมนท์ ฮ่องกงคือประเทศที่ฉันไปบ่อยแบบสุดๆ
ด้วยความที่ยังเด็กมาก และเป็นการติดสอยห้อยไปช่วยแม่ทำงานซะเป็นส่วนใหญ่ ก็เลยจำอะไรเกี่ยวกับประเทศนี้ไม่ค่อยได้

ภาพจำจะมีเป็นห้วงๆ เสี้ยวๆ ขาดๆ เกินๆ

ในหัวเต็มไปด้วยเบอร์กระดุม แบบหัวซิป หัวเข็มขัด กระดุมปั๊ม กระดุมเปลือกหอย การวิ่งเข้าไปขอตัวอย่างอย่างละนิดอย่างละหน่อยกลับประเทศ บทสนทนาภาษาอังกฤษปนจีนกวางตุ้งกระท่อนกระแท่น การขอแลกนามบัตร มีทำนามบัตรแฝงคนละแบบกับแม่ด้วย เหมือนเป็นขบวนการข้ามชาติ

ที่เหลือก็จะเป็นความทรงจำวิบากปนขำ จำพวกการสั่งโจ๊กชามเท่าอ่าง ถุงเค้กที่ถือแกว่งไปมาจนเละไปหมด รวมถึงการปล่อยไก่ในตำนานที่สถานีมงกกด้วย (I’m come from Bangkok.. เหี้ยมาก แม่แซวอยู่หลายปีกว่าจะเลิก)

แล้วความทรงจำก็ขาดช่วงไปหลังแม่เลิกขายกระดุม ตอนที่เงินบาทลอยตัวปี 40 นั่น

กว่าจะได้กลับไปอีกครั้งกับแม่ ก็เมื่อสักสิบปีที่แล้วได้มั้ง
และพบว่าฮ่องกงได้เพื่อนรักใหม่เป็นชาวแขกอินเดียแล้ว หลังจากพี่ไทยเศรษฐกิจล่มสลายหนีหายไปหมด
ตลาดทั้งปวงที่เราเดินจนเชี่ยวชาญ ถูกเปลี่ยนสินค้าใหม่เพื่อเอาใจชาวแขกทั้งหมดเลย ทั่วทั้งเมืองที่เราคุ้นเคยอบอวลไปด้วยกลิ่นเครื่องเทศ และสินค้าที่ปรับ quality ลดลงเยอะมาก

มากจนเราไม่อยากไปอีกแล้ว

นั่นแหละความทรงจำเกี่ยวกับฮ่องกงของฉัน

พอหลังๆ ใครต่อใครไปเที่ยวฮ่องกง
ในหัวก็จะคิดขึ้นมาทันทีว่า ..ไปทำไมวะ

ไม่เคยมีความรู้สึกถึงสถานที่นี้ในเชิงการท่องเที่ยวเลย นึกไม่ออกเลย ว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง
จนกระทั่งเหล่าสนมเอ่ยชื่อ Hongkong Disneyland ขึ้นมา

อ๋อ มีดิสนีย์

โอเค ไปก็ไป

===

ทริปนี้เริ่มต้นจากการอยากพาจี้ไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก

ตบตีเลือกที่เลือกวันกันอยู่นาน ดูจะล่มแหล่มิล่มแหล่
สุดท้ายฉันก็หักคอจองตั๋วเครื่องบินแม่งเลย จบเลยง่ายๆ

แล้วนั่นก็เป็นอย่างเดียวที่ฉันทำตลอดทริปนี้

จากที่เคยเป็นแม่งานทั้งหมดในทริปโอซาก้าปีที่แล้ว
ปีนี้ฉันทำตัวเป็นไส้ติ่งเล็กๆ นิ่งๆ ตรงข้ามกับปีก่อนโดยสิ้นเชิ
ยกทุกสิ่งให้เจ้าอิ่มและเจ้าจี้จัดการทั้งหมด ไม่ได้ช่วยอะไรเลยจริงๆ

รู้ตัวอีกทีก็เก็บกระเป๋าเตรียมบิน
หัวสมองโล่งว่างเปล่าไร้การเตรียมตัวใดๆ มีแค่ความทรงจำเก่าเก็บเลือนรางร่วมยี่สิบปีที่ผ่านมาแค่นั้น

แล้วพอมาถึง ฉันก็พบว่า ฮ่องกงเปลี่ยนไป อีกแล้ว

ฮ่องกงวันนี้มีเพื่อนใหม่ เป็นชาวต่างชาติเยอะแยะ
ไม่ใช่แค่คนไทย ไม่ใช่แค่แขกอินเดีย แต่เป็นคนทุกชาติ ทุกภาษา ทุกอย่างเลย
แล้วฮ่องกงก็กลายร่างเป็นคนใหม่อีกครั้งในความทรงจำของฉัน

บ้านเมืองเปลี่ยนไป แสงสี ป้ายร้าน ดวงไฟ คล้ายญี่ปุ่นไต้หวันเข้าไปอีก
จะว่าเหมือนก็ไม่ใช่ มันก็ยังคงเป็นฮ่องกงแหละ แต่ไม่ใช่ฮ่องกงแบบเดิมที่ฉันรู้จัก

ฮ่องกงวันนี้เป็นสาวสวย กักขฬะเล็กน้อย กบฏนิดหน่อย (และสูบบุหรี่จัด) นางเจ้าสำอาง แต่งตัวเก่งขึ้น เริ่มรักสะอาด และชอบแต่งหน้าด้วย

และที่สำคัญ คือนางนิสัยดีขึ้น

มีหลายต่อหลายครั้งในทริปนี้ ที่ได้รับความโอบอ้อมอารีแบบคาดไม่ถึง
มีคุณลุงที่ตักเตือนอย่างห่วงใยหลังจากเห็นฉันแต่งตัวเหมือนไปทะเล ว่าอากาศวันนี้เย็นกว่าเมื่อวานนะยู ใส่เสื้ออีกชั้นเถอะ
มีคนขายเสื้อที่ลดราคาและแถมถุงให้เฉยๆ
มีคุณป้าที่พยายามจะพูดภาษาอังกฤษด้วย แบบเป็นคำๆ และยิ้มแย้มให้ถึงฉันจะไม่ยอมซื้ออะไร (ถ้าเป็นแต่ก่อนนี่โดนด่าไปแล้วจ้า)

เออเว้ย มิติใหม่
เป็นอะไรที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะมาเจอจริงๆ

===

ตอนที่เขียนโน๊ตนี้ ทริปก็กำลังจะจบลงแล้ว

ทริปฮ่องกงแบบงงๆ ที่ได้อะไรกลับไปเกินกว่าที่คิดเยอะมาก
ได้กิน ของที่ไม่คิดว่าจะกิน (และไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้)
ได้เที่ยว ที่ที่ไม่คิดว่าจะได้เที่ยว (ดิสนีย์ที่ไม่เคยมีแผน)
ได้หัวเราะ แบบที่ไม่นึกว่าจะหัวเราะได้มากขนาดนั้น (ไอ้เครื่องเล่นหมีบ้าแม่งเผากัญชาใส่ที่นั่งแน่ๆ)

สรุปเลยคือสนุกมาก สนุกจัง ดีใจที่ได้มา

ขอบคุณอิ่มที่เป็นแม่งาน เป็นธุระจัดการรีเสิร์ชให้ทุกอย่าง เจ้าเก่งมาก ข้าภูมิใจในตัวเจ้า ชอบทุกอย่างที่เจ้าทำการบ้านมา
ขอบคุณจี้ ที่เป็นบ้า.. อีบ้าจี้ แม่งให้ทำอะไรก็ทำ ให้ตื่นตีห้าไปวิ่งแม่งก็วิ่ง ให้เดินจากจิมซาจุ่ยไปมงกกมันก็เดิน อีบ้า บ้าดี ข้าชอบ
ขอบคุณอรที่มาด้วยกัน เห็นเจ้าพี่น้องเล่นกันแล้วสนุกดี และกล้องเจ้าสวยมาก 55

ขอบคุณที่มาเป็นหนึ่งในความทรงจำบทใหม่ของฮ่องกงสำหรับเรา คราวนี้เราจะจำมันไว้ดีๆ
ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้านะ ถ้ามีโอกาส

ไม่แท็กนะ มันยาว
นี่ค่อนข้างมั่นใจว่าคงมีคนอ่านจบถึงตรงนี้ไม่เกินสี่คน แต่ก็ไม่เป็นไร ตั้งใจเก็บไว้อ่านเองอยู่แล้วแหละ 

Until the next trip.
7 – 10 Dec 2018
#พาจี้เหินฟ้า

 Image may contain: skyscraper, sky and outdoor

Share: